Asungha

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อสังหาริมทรัพย์ตีปีกรบ.เตรียมลดดอกเบี้ย

อสังหาฯ ตีปีกรบ.เตรียมลดดอกเบี้ย ได้โละบ้านเก่ากว่า 50% กอร์ปศักด์ ยันไม่ได้อุ้มคนรวย
แบงก์ชี้ลดภาษีกู้บ้าน คนซื้อบ้านหรูหลังละ 4-5 ล้านได้ประโยชน์ ธุรกิจอสังหาฯตีปีก ได้โละบ้านที่ค้างกว่า 50% เครือแลนด์ฯ-แสนสิริ ส้มหล่นทันที กอร์ปศักดิ์ ยันไม่ได้เลือกปฏิบัติ มีแผนช่วยธุรกิจอื่นอยู่แล้ว นายกฯ เตรียมเงิน 3 แสนล้านกระตุ้นเศรษฐกิจ ัััััััััมาร์ค เตรียมใช้3แสนล.ดึงศก.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ยืนยันว่ารัฐบาลเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3 แสนล้านบาท โดยมาจากการเพิ่มวงบประมาณประจำปี, เงินกู้จากธนาคารของรัฐที่จะนำไปใช้เพื่อพยุงราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวกับยางพารา และการโยกเงินงบประมาณสำหรับรัฐบาลส่วนท้องถิ่นที่ไม่มีการเบิกจ่ายกลับมาใช้ในแผนกระตุ้นครั้งนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีถือว่าเป็นแผนกระตุ้นครั้งใหญ่ทีเดียว และเป็นการปรับเพิ่มวงเงินขึ้นจากเดิมที่เคยประมาณกันไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึง 100,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้เพิ่มรายได้ให้กับชาวชนบทผ่านก่อสร้างถนน คลอง และการพยุงราคาสินค้าเกษตร ในขณะที่เงินอีกส่วนหนึ่งจะใช้ฝึกอบรมพนักงานที่ถูกลอยแพอันเป็นผลมาจากการส่งออกลดลง โดยจะใช้เงิน 1 แสนล้านบาทเพื่อปล่อยกู้ผ่านธนาคารของรัฐทั้งเพื่อช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรและเพิ่มสภาพคล่องให้กับกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก


ถกชวนวิกฤติหนักกว่าปี 40
เวลา 12.00 น. ที่พรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชั้น 3 ตึกควงอภัยวงศ์ ใช้เวลาหารือร่วม 20 นาที จากนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาขอคำแนะนำปัญหาภาพรวม โดยเฉพาะบางปัญหา เช่น ปัญหาภาคใต้ แต่ที่เป็นห่วงคือเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาแรงงาน งบประมาณกลางปี มีการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนทั้งการชะลอการเลิกจ้าง และการป้องกันการว่างงาน โดยจะใช้ได้ทันทีหลังจากแถลงนโยบาย รัฐบาลพยายามเดินหน้าให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน


วิกฤตขณะนี้หนักกว่าปี 2540 โดยปี 2540 เกิดจากวิกฤติภายในบ้านเรา โดยเริ่มจากภาคการเงินมีปัญหา ไม่มีการปล่อยสินเชื่อจึงไปกระทบกับธุรกิจ แต่ปีนี้มาจากข้างนอก ธุรกิจในประเทศเจอปัญหาเรื่องการส่งออกและเรื่องท่องเที่ยว มั่นใจว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลรับมือไหวอย่างแน่นอน นายกฯ กล่าว


วอนแรงงานอย่าชุมนุมซ้ำเติม
นายอภิสิทธิ์ ระบุด้วยว่า ขอร้องบรรดาพี่น้องผู้ใช้แรงงานเป็นพิเศษคือ การชุมนุมเรียกร้องใด ๆ อยากให้รักษาความสงบเรียบร้อย เพราะฉะนั้นจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมความเชื่อมั่น และภาวะเศรษฐกิจ อยากให้ลูกจ้างได้มีการทำความเข้าใจกับนายจ้างเพื่อสอบทานความเข้าใจกันให้ดีว่าสถานะทางเศรษฐกิจเป็นอย่างไร หากไม่ตรวจทานสถานะที่แท้จริงของผู้ประกอบการก็จะทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ข้อเรียกร้องก็ยากที่จะสนองตอบ นายจ้างก็ต้องมีความโปร่งใสเป็นพิเศษในเรื่องสถานะทางเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวง หรือฉกฉวยสถานการณ์เพื่อเลิกจ้างหรือลดเงินเดือนและว่า

นายกฯยันประชานิยมจำเป็น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีน.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ระบุประชานิยมถ้าไม่สร้างสรรค์จะเป็นยาเสพติดให้กับประชาชน ว่า วันนี้สิ่งที่ทั่วโลกทำเหมือนกัน เขาไม่เรียกประชานิยม แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีความจำเป็น เพราะถ้าไม่สามารถรักษากำลังซื้อของประชาชนได้ เศรษฐกิจจะถดถอยและซบเซาอย่างรุนแรง ต้องแยกออกจากแนวคิดใช้นโยบายในลักษณะหาเสียง หรือเพื่อความสะดวกทางการเมือง ต้องหามาตรการให้เงินเข้ากระเป๋าประชาชนให้ได้ ซึ่งอเมริกา จีน ญี่ปุ่นก็ทำ ส่วนการใช้เงินต้องมีเป้าหมาย ไม่ใช่เป็นเงินที่ปล่อยไปแล้วไม่สร้างสรรค์อะไร

ให้ความมั่นใจว่าไม่ต้องการให้ประชาชนเสพติดกับสิ่งเหล่านี้ แต่บังเอิญไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าเทียบเคียงโครงการที่ทำ กับโครงการที่มักจะมีการรั่วไหลและการกระจุกตัวแล้ว ต้องสามารถกระจายกำลังซื้อได้มากที่สุด ยกเว้นบางโครงการที่เป็นประโยชน์ในแง่โครงสร้างพื้นฐาน ทุกอย่างต้องมีผลตอบแทนกลับมาไม่ใช่เงินที่หายไป นายกฯ ระบุ

ลดภาษีบ้านให้คนรวยแค่แนวคิด
เมื่อถามว่า มีการมองว่านโยบายการลดอัตราดอกเบี้ยอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังจะออกมา คนได้ประโยชน์คือคนรวย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาตรการยังไม่มีรายละเอียด เป็นเพียงแนวคิด ต้องดูรายละเอียดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด หมายถึงเน้นคนระดับรากหญ้า เป็นตัวเลขที่บ่งบอกผลกระทบจากการผ่อนบ้านรายได้เท่าไหร่ ต้องเอาตัวเลขมาดูและจะไปให้ตรงจุดที่สุด

กอร์ปศักดิ์ ยันไม่เลือกปฏิบัติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านหลังใหม่ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อจูงใจให้คนที่มีฐานะดี ตัดสินใจซื้อบ้านมากขึ้น และไม่ได้เลือกปฏิบัติ เพราะรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือทุกธุรกิจที่ประสบปัญหาอยู่แล้ว และในมุมมองของตน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความสำคัญมาก เพราะเชื่อมโยงกับการว่างงาน เนื่องจากขณะนี้มีบ้านสร้างเสร็จแล้วขายไม่ออกจำนวนมาก จึงต้องกระตุ้นให้คนควักเงินออกมาซื้อบ้านโดยเร็ว จะได้เคลียร์สต็อคให้หมด ถ้าของเก่าขายหมด ก็จะมีการสร้างใหม่ เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ

ถามว่า กังวลจะถูกโจมตีหรือไม่ เพราะบุคคลในรัฐบาลหลายคน ถูกมองว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่าไม่กังวล เพราะเมื่อเข้ามาทำหน้าที่นี้ ต้องกล้าตัดสินใจ และมั่นใจว่าสิ่งที่ทำ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร ทั้งนี้ การใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะมีหลายรูปแบบ เช่น การออกภาษีจูงใจให้ใช้พลังงานทดแทนเป็นต้น

ไม่เห็นด้วยลดภาษีนิติฯ-แว็ต
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล เพราะจะทำให้รัฐถูกมองว่าช่วยเหลือบริษัทเอกชน และที่สำคัญไม่มีใครรับประกันได้ว่า เมื่อลดภาษีเงินได้นิติบุคคลแล้ว บริษัทเอกชนจะไม่ปลดคนงาน ส่วนการลดภาษีมูลค่าเพิ่มคงไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก
นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ส่วนการปรับลดภาษีนิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม (แว็ต) โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วย หากมีการปรับลดภาษีนิติบุคคลเป็นการทั่วไป รัฐบาลจะถูกมองว่า ให้การช่วยเหลือบริษัทเอกชน และที่สำคัญไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า เมื่อปรับลดภาษีให้แล้ว บริษัทเอกชนจะไม่ปลดคนงาน ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม หากมีการปรับลดก็คงไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก แต่ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง

แบงก์ชี้คนซื้อบ้านหรูได้ลดภาษี
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การเพิ่มการหักลดหย่อนดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านจาก 1 แสนบาท เป็น 2 แสนบาท จะทำให้ลูกค้าที่ขอสินเชื่อซื้อบ้านวงเงินไม่เกิน 4 ล้านบาทได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่ต้องเสียภาษีประมาณ 2 แสนบาท เนื่องจากต้องมีรายได้มากกว่า 8 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งมีประมาณ 30-40% ของลูกค้าที่ขอสินเชื่อบ้านทั้งหมด แต่รัฐบาลต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสองมาตรฐาน(ดับเบิ้ล สแตนดาร์ด)

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสงหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว เพราะเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มที่มีกำลังซื้อนำเงินออกมาใช้และจะช่วยให้เศรษฐกิจหมุนต่อได้อีกหลายรอบ และใช้เพียง 1 ปีไม่นานเกินไปจนทำให้ผู้บริโภคเกิดความเคยชิน แต่อยากเสนอให้ครอบคลุมบ้านที่อยู่จริง หรือบ้านมือสองด้วย เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีขึ้น แทนที่จะให้เฉพาะผู้กู้ซื้อบ้านใหม่เท่านั้น ทั้งนี้ การเพิ่มค่าลดหย่อนดังกล่าว กลุ่มที่ได้ประโยชน์คือผู้ซื้อบ้านระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีรายได้ 6 หมื่นบาทต่อเดือน ที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 20% ของจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยแนวราบสร้างใหม่

คนที่ซื้อบ้านระดับ 5 ล้านบาทเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว แต่อาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปด้วยปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจ ถ้ามีมาตรการดังกล่าว จะทำให้คนกลุ่มนี้ตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น นายสัมมากล่าว

กลุ่มแลนด์ฯ-แสนสิริได้อานิสงส์
นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการซื้อบ้านระดับราคา 5-8 ล้านบาท ที่มีประมาณ 50 % ของบ้านสร้างใหม่ แต่ไม่อยากให้มองว่าภาครัฐช่วยเหลือผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จำหน่ายบ้านในระดับราคาดังกล่าว เพราะเมื่อผู้ประกอบการขายบ้านได้จะช่วยกระตุ้นธุรกิจภาคอื่นๆ ได้อีกหลายอย่าง เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงการจ้างงานและมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาดบ้านระดับราคา 5-8 ล้านบาทคือบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)

กรณ์หวังอัดฉีดแล้วจีดีพีดีขึ้น
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2552 จะขยายตัว 0-2% ว่า เป็นการตั้งสมมติฐานจากปัจจัยในปัจจุบัน ที่การส่งออก การบริโภคปรับตัวลดลง แต่ยังไม่ได้รวมผลเชิงบวกจากมาตรการที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2552 ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้จีดีพีน่าจะขยายตัวได้มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้

ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขที่ชัดเจน ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้เป็นบวกทุกไตรมาส แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาการขาดดุลแฝด ทั้งการขาดดุลงบประมาณและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่จะเกิดขึ้นค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะยอดการส่งออกในเดือนธันวาคมน่าจะลดลงต่อเนื่องจากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาและจะส่งผลกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดได้ นายกรณ์กล่าว

ชงงบ1แสนล.เข้าสภากลางม.ค.
นายกรณ์ กล่าวว่า งบเพิ่มเติม 1 แสนล้านบาทคาดว่าเข้าสภาได้ประมาณเดือนมกราคม 2552 ดังนั้น ในเบื้องต้นอาจต้องให้สถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ช่วยปล่อยสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับระบบการเงินประเทศไปก่อน ส่วนที่มีข่าวว่าจะใช้งบ 4 แสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ได้หารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ทราบว่ามีข้อจำกัดทางกฎหมาย โดยเบื้องต้นสามารถกู้ได้เพิ่มเติมในรูปของการขาดดุลงบประมาณ อีก 1.8 แสนล้านบาท แต่เดิมจะจัดทำงบกลางปีขาดดุลเพิ่ม 1 แสนล้านบาท ดังนั้น ถ้าจะมีความจำเป็นในการอัดฉีดเงินผ่านมาตรการอื่นๆ จะต้องนำมาจากแหล่งเงินอื่นๆ

ที่ผ่านมาสถาบันการเงินของรัฐมีบทบาทสำคัญในการปล่อยสินเชื่อมาก มีสัดส่วนในการปล่อยสินเชื่อสูงกว่าฐานเงินฝาก 100% ขณะที่สถาบันการเงินอื่นๆ จะปล่อยสินเชื่อ 95% จึงต้องไปเร่งบทบาทของสถาบันการเงินรัฐให้ปล่อยสินเชื่อเข้ามาในระบบให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลกำลังหาแหล่งทุนสนับสนุนการเพิ่มทุนให้แบงก์เหล่านี้ โดยจะไปหารือกับนายกรัฐมนตรี และนายกอปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง นายกรณ์ กล่าว
ัััััััั
ข้อมูลจาก มติชน

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

โครงการคอนโดมาใหม่ในปี2552

รายชื่อโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวไปแล้ว และคาดว่าจะเปิดตัวใหม่ ในปี พ.ศ. 2552
พรรณสิริ พร็อพเพอร์ตี้ : โครงการคอนโดมิเนียม และโรงแรมระดับ 4 ดาว กว่า 350 ห้อง ติดถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้าม แบกซ์เตอร์ (BAXTOR) ในซอยพหลโยธิน 14 บนเนื้อที่ 392 ตารางวา รูปแบบอาคาร 8 ชั้น จำนวน 58 ยูนิต มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท ขนาด 43-157 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 5.3 หมื่นบาทต่อตารางเมตร หรือประมาณ 2.8-8.5 ล้านบาทต่อยูนิต ซ.101 เนื้อที่ 7 ไร่ ขนาดพื้นที่ 17,000 ตร.ม. มูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 4 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายได้ในปี 2552
ธนายง: คอนโดมิเนียมขนาดเล็ก ในสไตล์ ฮิปคอนโดมิเนียม บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ จำนวน 2 อาคาร ขนาดพื้นที่ 45 ตารางเมตร ราคาขายตั้งไว้ 6.5 หมื่นบาท/ตารางเมตร หรือ 2.9 ล้านบาท/ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 400 ล้านบาท
อคานโด : ปรับปรุงโครงการ “เอชที คอนโดมิเนียม” ซอยอินทามระ มูลค่าในการปรับปรุง 110 ล้านบาท จำนวนกว่า 460 ยูนิต 8 ชั้น 4 ตึก ราคาเริ่มต้น 999,999.50 บาท โดยจะเน้นรุปแบบเดิมให้มากที่สุด เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน และค่าวัสดุก่อสร้าง ทั้งนี้บริษัทได้ปรับปรุง จำนวน 191 ยูนิต ปล่อยเช่า 56 ยูนิต มูลค่าตอบแทน 4.5 ล้านบาทต่อปี ขาย 69 ยูนิต มูลค่า 200 ล้านบาท เริ่มปรับปรุงต้นปี 2552
เพลินจิต เรสซิเด้นท์ : โครงการ "เพลินจิต เรสซิเดนท์" เป็นคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บนที่ดินขนาด 7 ไร่ครึ่ง บริเวณสี่แยกถนนเพลินจิต ราคาประมาณ 200,000 กว่าบาทต่อตร.ม. รวมมูลค่าโครงการ 17,000 ล้านบาท
เจ้าพระยามหานคร (CMC) : คอนโดมิเนียม ชาโตว์ อินทาวน์ ในย่านสาทร-ตากสิน เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร จำนวน 300 ยูนิต ราคาขายประมาณ 1.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
เอ็มเจเอไอ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJAI) (บริษัทร่วมทุนระหว่าง เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และ บริษัท เอไอจี โกลบอล เรียลเอสเตท อินเวสน์เมนต์ จำกัด) : โครงการที่ทองหล่อ 10 พญาไท และสีลม-สุรวงศ์ ในระดับราคาตร.ม.ละกว่า 100,000 บาทขึ้นไป
เสนาดีเวลลอปเม้นท์ : เดอะนิช ตากสิน ติดถนนอินทรพิทักษ์ ใกล้วงเวียนใหญ่
ทีซีซี แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ : โครงการ วิลล่า อโศก ใกล้แยกอโศก-เพชรบุรี และ แอร์พอร์ตลิงค์
ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) :
1. คิวเฮ้าส์ คอนโด สาทร (Q.House Condo Sathorn) บริเวณสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากตากสิน (สถานี S-7 เจริญนคร) เป็นคอนโดมิเนียมระดับบน เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ราคาขายไม่ต่ำกว่า 70,000 บาทต่อตร.ม. มีจำนวนกว่า 500 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างในปี 2551 จะแล้วเสร็จในปี 2552 และจะเปิดการขายต่อเมื่อการก่อสร้างคืบหน้าไป 50-60% (รายละเอียด...)
2. คาซ่า คอนโดมิเนียม บริเวณย่านท่าพระ (รถไฟฟ้า BTS สถานี S-10 และ S-11) ใกล้เดอะมอลล์ ท่าพระ มีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ พัฒนาได้ 8 ชั้น 2 อาคาร ประกอบด้วย ห้องชุดขนาด 35 ตร.ม. เกือบ 300 ยูนิต ในระดับราคา 50,000-55,000 บาท/ตร.ม. จะเริ่มก่อสร้างในปี 2551 จะแล้วเสร็จในปี 2552 และจะเปิดการขายต่อเมื่อการก่อสร้างคืบหน้าไป 50-60%
3. คิวเฮ้าส์ หลังสวน เป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ ราคาขายเริ่มต้นที่ 2 แสนบาท ต่อ ตร.ม.
(รายละเอียด...)
4. คอนโดมิเนียมสำหรับห้องชุดชนาดเล็ก ติด ถ.สุขุมวิท เพื่อจับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ในย่านใจกลางเมือง ระดับราคา 3-4 ล้านบาท
แสนสิริ :
1. The Vertical Aree ซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน ตรงข้ามธนาคารกสิกรไทยสำนักงานใหญ่ ห่างจาก BTS ประมาณ 300 เมตร เริ่มต้น 3.2 ล้านบาท (รายละเอียด...)
2. คอนโด blocs 77 บริเวณ อ่อนนุช เป็นคอนโด สูง 28 ชั้น ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ (รายละเอียด...)3. Hive พหลโยธิน (สะพานควาย)อิสเทิร์น สตาร์ เรียลเอสเตท :1. คอนโดมิเนียม บริเวณสะพานพระราม 92. คอนโดมิเนียม ย่านราษฎร์บูรณะ 10 ไร่
3. คอนโดมิเนียม ย่าน ถ.พระราม 6 ประมาณ 3 ไร่
เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ (AP) :
1. ไลฟ์ แอท ลาดพร้าว 18 (Life @ Ladprao 18) ห่างจากสถานี MRT ลาดพร้าว ประมาณ 150 เมตร
(รายละเอียด...)
2. ไลฟ์ แอท รัชดา-ห้วยขวาง 2 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่ ตรงข้าม ไลฟ์ แอท รัชดา-ห้วยขวาง โครงการแรก มีจำนวน 600 ยูนิต ขนาด 30 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาขายเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท
3. คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 28 เนื้อที่ 2 ไร่ จำนวน 219 ยูนิต
4. The Address Phayathai จำนวนประมาณ 153 ยูนิต
5. The Address Siam II ประมาณ 156 ยูนิต
6. โครงการคอนโดมิเนียม สาทร 12 ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับ บริษัท แปซิฟิกสตาร์ บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ จำนวน 496 ยูนิต มูลค่า 3,400 ล้านบาท
7. คอนโดมิเนียม ย่านถนนตากสิน
แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) :
1. ลุมพินี เพลส รามอินทรา-หลักสี่ ติดเซ็นทรัล รามอินทรา ราคาเริ่มต้น 1 ล้านกว่าบาท (รายละเอียด...)
2. ลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ บริเวณ รามอินทรา กม.8 เลยโรงพยาบาลสินแพทย์ไปเล็กน้อย ทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนเกษตรนวมินทร์ได้ บนพื้นที่ 15 ไร่ ต้นทุนที่ดิน 188 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 7-8 แสนบาทต่อยูนิต สร้างเป็นอาคารสูง 25 ชั้น จำนวน 2,500 ยูนิต โดยได้ออกแบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร ออกมาทำตลาดเพื่อจับกลุ่มกำลังซื้อระดับกลางล่าง มูลค่า 2,250 ล้านบาท เปิดตัว 6 มิถุนายนนี้ (รายละเอียด...)
3. ลุมพินีวิลล์ บริเวณ ราษฎร์บูรณะ-สุขสวัสดิ์ จำนวน 5 ไร่ ต้นทุนที่ดิน 72 ล้านบาท อยู่ตรงข้ามโครงการ ไอวี ราษฎร์บูรณะ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 1,100 ยูนิต มูลค่า 1,200 ล้านบาท เปิดตัว 17 มิถุนายนนี้
4. ลุมพินีวิลล์ บริเวณ ปิ่นเกล้า ขนาด 12 ไร่ (เป็นที่ดินของกลุ่มบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ) ราคา 470 ล้านบาท พัฒนาเป็นอาคารสูง 30 ชั้น จำนวน 4 อาคาร 2,400 ยูนิต มูลค่า 3,100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ประมาณ กลางไตรมาส 3 ของปีนี้
5. โครงการ เอลเดอรี่ คอนโด (Elderly Condominium) ทำเลถนน นราธิวาสราชนครินทร์ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 7 ชั้น จำนวน 150-200 ยูนิต ขนาดห้องชุดเริ่มที่ 25 ตร.ม. ในราคาตร.ม.ประมาณ 1 แสนบาท โดยพื้นที่กว่า 50% จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับรองรับการทำกิจกรรมระหว่างวันของกลุ่มผู้สูงอายุ มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท
สยามนุวัตร : คอนโดมิเนียม ในย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่
กรุงเทพบ้านและที่ดิน : คอนโดมิเนียม ขนาดไซซ์ไม่ใหญ่มาก ขนาดที่ดิน 3-5 ไร่ ในทำเล สุขุมวิท และ รัชดาภิเษก ราคาขายไม่เกิน 2 ล้านบาท ประมาณ 2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท
เวลท์ พร็อพเพอร์ตี้ : โครงการบริเวณสามแยกไฟฉาย ที่ดินประมาณ 7-10 ไร่ มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม แต่ต้องรอให้รถไฟฟ้าชัดเจนก่อน
ตัน เอสเสท :
1. โครงการคอนโดมิเนียม ระดับเอ ย่านซอยทองหล่อ ซื้อที่ดินแปลงใหญ่ 12 ไร่ ต่อจากกลุ่มศรีกรุง ราคาขายตารางวาละ 1 แสนบาทขึ้นไป
2. เพลินจิต อาเขต จะทำเป็นโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และคอนโดฯ ราคาขายตารางเมตรละ 200,000 บาทขึ้นไป
พฤกษาเรียลเอสเตท (PS) : Ivy China Town บริเวณเยาวราช ถนนไมตรีจิตต์ ฝั่งวัดเล่งเน่ยยี่ ราคาเริ่มต้น 7.5-20 ล้านบาท (รายละเอียด...)
ลิฟวิ่งแลนด์ แคปปิตอล :
1. เดอะ โคลเวอร์ เชียงใหม่ ใกล้ดอยสุเทพ สูง 7 ชั้น รวม 79 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาทเศษ
2. เดอะ เมเปิ้ล รามคำแหง บนถนนสุขาภิบาล 3 บนพื้นที่ขนาด 19 ไร่ เฟสแรก 4 อาคาร 800 ยูนิต จากทั้งหมด 14 อาคาร ขนาดห้องชุดเริ่มที่ 30 ตร.ม. ราคา 8-9 แสนบาท
3. เมเปิ้ล (อังเกตุ) พัทยา เป็นลักษณะการซื้อโครงการมาพัฒนาต่อ ในย่านจอมเทียน พัทยา จำนวน 250 ยูนิต
4. เดอะ เมเปิ้ล แจ้งวัฒนะ ใช้ระยะเวลาก่อสร้างโครงการประมาณ 36 เดือน สิ้นสุดภายในเดือนตุลาคม 2554 และจะเริ่มเปิดขายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2551
อารียา พร็อพเพอร์ตี้ : คอนโดฯ และอาคารสำนักงาน เอสเปซ เคลียร์ อโศก-รัชดาฯ 488 ยูนิต เป็นคอนโดฯแบบตกแต่งพร้อมอยู่ ราคาขายเฉลี่ย ตร.ม.ละ 7 หมื่นบาท สูงกว่าแบรนด์เอสเปซเล็กน้อย รวมถึงจะพัฒนาอาคารสำนักงาน ความสูง 8 ชั้น พื้นที่ 6,000 ตร.ม.
เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) : คอนโดมิเนียม 2 แห่ง คือ บริเวณสะพานควาย และสุขุมวิท (อยู่ระหว่างขั้นตอนการหาที่ดิน)
ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม : เดอะ เฮอริเทจ ราชดำริ (The Heritage Rajdamri) มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมระดับผู้บริหาร สูง 50 ชั้น พื้นที่ประมาณ 48,000 ตารางเมตร จำนวน 424 ห้อง ที่ตั้งอยู่ระหว่างซอยมหาดเล็กหลวง 2 ถนนราชดำริ กับซอยหลังสวน ขนาดเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ บนที่ดินเช่าสิทธิจากสำนักงานพระคลังข้างที่ ติดกับเส้นทางเดินรถไฟฟ้าบีทีเอส
ที ซี ซี แคปปิตอล แลนด์ : คอนโดมิเนียม บริเวณสถานีรถไฟฟ้าศูนย์วัฒนธรรม เนื้อที่ 4-5 ไร่ ขายในราคาตารางเมตรละ 8 หมื่นบาท เปิดกลางปีนี้
อสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล (ในเครือ ที ซี ซี แคปปิตอล แลนด์) : คอนโด ในทำเลส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าย่านฝั่งธนบุรี
ประกิต โฮลดิ้งส์ฯ : โครงการคอนโดมิเนียม ที่สุขุมวิท 62 ขนาด 3 ไร่กว่า มูลค่าที่ดิน 90 ล้านบาท โดยวางแผนจะสร้าง 200-300 ยูนิต ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสถานีบางจาก เพียง 500 เมตร และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน
ซี.พี. แลนด์ : โครงการคอนโดมิเนียม บริเวณ นอร์ท ปาร์ค วิภาวดี มูลค่าโครงการ 1,525 ล้านบาท
มณียาเรียลตี้ : รอยัลมณียา เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ (Royal Maneeya Exclusive Residence) ติดกับอาคาร มณียาเซ็นเตอร์ ย่านเพลินจิต เป็นคอนโดฯ เพื่อขาย สัญญาเช่า 30 ปี จำนวน 60 ยูนิต ราคาขาย 1 แสนบาทต่อ ตร.ม. มูลค่าโครงการ 3,000-4,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 51 หรือต้นปี 52 และมีโรงแรมระดับ 5 ดาว ภายใต้ชื่อ เรเนซอง ขนาด 400 ห้อง ทั้งหมดบนพื้นที่ 3 ไร่
ศุภาลัย : ศุภาลัย ปาร์ค แยกติวานนท์ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 21 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท (รายละเอียด...)
เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ : คอนโดโลว์ไรซ์ 8 ชั้น ทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ย่านประชาชื่น และใกล้แอร์พอร์ตลิงค์ ย่านพระราม 9
วีรันดา รีสอร์ทแอนด์สปา : โรงแรมพ่วงขายห้องชุด บริเวณสีลม-สาทร
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) :
1. คอนโด ที่กว่า 2 ไร่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ตากสิน โดยซื้อต่อจากปริญสิริ
2. "เดอะรูม" เยื้องซอยสุขุมวิท 101/1 ประมาณ 6 ไร่ ซื้อต่อจากโครงการพรีม่าสุขุมวิท ขายราคา 80,000-100,000 บาทต่อตารางเมตร
เอกมหากิจ : Century Movie Plaza อ่อนนุช อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช เป็นพลาซ่าและคอนโดมิเนียม
บาลีลาน่า ในเครือ พีทีเอสโฮม : คอนโดมิเนียม "THE REXUS" (เดอะเรกซัส) บนเนื้อที่ 2 ไร่ ในย่านรามอินทรา บริเวณใกล้เคียงกับโครงการคอนโดฯ ของ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ฯ เน้นจับตลาดระดับกลางถึงล่าง
ณุศาศิริ : คอนโดมิเนียม ระดับลักชัวรี่ บนถนนสาทร สูง 37 ชั้น จำนวน 78 ยูนิต ขนาด 105 ตร.ม. ราคาขายประมาณ 2.2 แสนบาทต่อตร.ม.
บ้านอังสนา : โครงการคอนโดมิเนียมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บริเวณซอยนานา บนถนนสุขุมวิท มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท
สินทรัพย์ช่างเหมาไทย : โครงการ ดิ โอเรียนเต็ล เรสซิเด็นซ์ รูปแบบการพัฒนาจะแบ่งเป็น 2 ส่วน บนที่ดิน 2.4 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย เป็นสัญญาเช่า 30 ปี ตัวอาคารสูง 32 ชั้น 1 อาคาร รองรับกลุ่มลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาติดต่อธุรกิจหรือทำงานในประเทศไทย ประกอบด้วยเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 60% บริเวณชั้นที่ 6-21 จำนวน 145 ยูนิต พื้นที่ตั้งแต่ 50-200 ตร.ม. คอนโดมิเนียม 40% ชั้นที่ 22-31 จำนวน 44 ยูนิต พื้นที่ 60-300 ตร.ม. ส่วนชั้นที่ 32 เป็นดาดฟ้า และชั้นกราวนด์ ถึงชั้น 5 เป็นพื้นที่สาธารณูปโภค ร้านค้าอาหาร คอฟฟี่ช็อป ฯลฯ ที่จอดรถอยู่ชั้นใต้ดินมี 4 ชั้น จอดได้กว่า 200 คัน มูลค่าโครงการ 3,500-3,800 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 16,000 ตร.ม. พร้อมเข้าอยู่ได้ต้นปี 2554
เอเชียพัฒนา แลนด์ : Sathorn Residence Condominium ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย เจริญนคร ราคาเริ่มต้น 1.36 ล้านบาท (รายละเอียด...)
บิ๊ก ทรี แอสเสท : ทรี คอนโด สุขุมวิท 42/1 จำนวน 73 ยูนิต (รายละเอียด...)
โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ : โนเบิล รีฟอร์ม (Noble Reform) ปากซอยอารีย์ เป็นคอนโด สูง 22 ชั้น
(รายละเอียด...)
ศรีชัย อินเตอร์เนชั่นแนล : คอนโด The Prize ซอย 20 มิถุุนา แยก 13 เริ่มต้น 9.8 แสนบาท
(รายละเอียด...)
ชีวาทัย : คอนโด เดอะ สุรวงศ์ (The Surawong) ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ เริ่มต้น 4.3 ล้านบาท
(รายละเอียด...)
ต้นสน พร็อพเพอร์ตี้ : โครงการ เดอะ สาธุ เรสซิเดนเซส (The Sathu Residences) ถนนพระราม 3 สาธุประดิษฐ์ จำนวน 918 ตารางวา จากทั้งหมด 6 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ สูง 15 ชั้น รวม 22 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 270-550 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 120,000 บาท/ตารางเมตร หรือ 32.4 -75 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 750 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2552 นี้ (รายละเอียด...)
ขอบคุณข้อมูล โดย http://www.prakard.com/

วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อาคารสำนักงานให้เช่า อาคารพญาไทพลาซ่า Phayatai Plaza ติดรถไฟฟ้า BTS (สถานีพญาไท) ใต้ตึกมีธนาคารกรุงเทพ เดินทางสะดวก ขนาดพื้นที่ต่างๆ 100 -1,250 ตร.ม.
ติอต่อ 02216-5000-2 หรือสำนักงานชั้น 38 ที่อาคารพญาไทพลาซ่า
ลิฟท์
- ลิฟท์โดยสาร 19 ตัว
-ลิฟท์ขนของขนาดใหญ่ 1 ตัว ( 2,600 กิโลกรัม)
ระบบปรับอากาศ
-อาคารสำนักงานใช้ระบบปรับอากาศแบบ
WATER COOLED SYSTEM แยกแต่ละส่วน
สามารถเปิดปิดตามจุดที่ต้องการได้
ระบบไฟฟ้า
-ทางสำนักงานมีมิเตอร์แยกแต่ละยูนิต จ่ายตามอัตราการไฟฟ้า
และมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน
ระบบป้องกันอัคคีภัย
1.ระบบสัญญาณเตือนภัยอัตโนมัติิ
2.ติดตั้งเครื่องพ่นน้ำอัตโนมัติ
3.ติดตั้งสายฉีดดับเพลิง และน้ำยาดับเพลิงทุกชั้น
4.ช่องบันไดหนีไฟมีระบบอัดอากาศต้านควันไฟ
5.มีการซ้อมอพยพการหนีไฟ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
6.มีเจ้าหน้าที่จากทางเขตราชเทวีมาตรวจระบบป้องกัน
อัคคีภัยปีละ 2 ครั้ง
7.มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนดาดฟ้า
ระบบป้องกันฟ้าผ่า
-มีสายล่อฟ้าต่อลงดิน
ระบบรักษาความปลอดภัย
-ติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดตามจุดต่างๆ
-ติดกล้องถ่ายรูปอัตโนมัติภายในลิฟท์
-มี รปภ รักษาการณ์ 24 ชั่วโมง
ระบบเสียงภายในอาคาร
-ติดตั้งลำโพงในห้องโถงกลาง และในตู้ลิฟท์ เพื่อกระจายเสียง
ดนตรี และคำประกาศต่างๆ รวมทั้งประกาศเตือนภัย
ในกรณีฉุกเฉิน

ติดต่อ 022165000-2

OFFICE FOR RENT

OFFICE FOR RENT IN PAYATAI PLAZA SPACE 100-1250 SQ.M
CONTACT 02-216-5000-2